วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เห็ดหอมยัดไส้เต้าหู้น้ำแดง

ส่วนผสม
เห็ดหอมแช่น้ำตัดก้านแข็งออก    12      ดอก
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นหยาบๆ            2      ดอก
เต้าหู้เหลืองหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก        1/4     ถ้วย 
แครอทหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก              1/4        ถ้วย
กะหล่ำปลีหั่นหยาบๆ                 1/4       ถ้วย
เห็ดฟางหั่นหยาบๆ                   1/4        ถ้วย
แป้งมัน                                 1       ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด                          1      ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย                          1      ช้อนชา    
ซีอิ้วขาว                               3      ช้อนโต๊ะ 
น้ำซุปผักชนิดใส                    1-1/2     ถ้วย    
น้ำ                                      3     ช้อนโต

วิธีทำ 

  1. ผัดเห็ดหอมที่เป็นดอก ใส่น้ำ ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล จนสุกนุ่ม ตักใส่จานพักไว้
  2. ผสมเห็ดหอมหั่น เต้าหู้ เห็ดฟาง กะหล่ำปลี แครอทเข้าด้วยกัน
  3. ใส่ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ แป้งมัน น้ำซุป 2 ช้อนชา เคล้าให้เข้ากัน ตักใส่เห็ดหอมในข้อ 1 นำไปนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที ยกลง เรียงใส่จานสำหรับเสริฟ
  4. ใส่น้ำซุป ซีอิ้วขาวที่เหลือลงในกระทะตั้งไฟกลาง พอเดือด ละลายแป้งข่าวโพดกับน้ำพอข้นและใส ตักราดลงบยเห็ดหอม ตักเสริฟร้อนๆ๊ะ

ปีกไก่หมักเครื่องเทศอบ

เครื่องปรุง 
ปีกไก่                1     กก.
ซอสถั่วเหลือง     2     ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น            2     ช้อนชา
หัวหอมใหญ่สับละเอียด     1/4     ถ้วย
น้ำมันพืช           2     ช้อนโต๊ะ
ยี่หร่าเม็ดใหญ่     1-1/2      ช้อนโต๊ะ
พริกป่น             2-3      ช้อนชา
พริกขี้หนูหรือพริกแห้งป่นหยาบๆ       1/2-1      ช้อนชา
กระเทียมสับละเอียด            2     ช้อนโต๊ะ    
ผิวมะนาวขูด      2     ช้อนชา     
นมสด             1/2      ถ้วย

วิธีทำ
  1.  นำหอมใหญ่มาเจียวกับน้ำมันจนนวล
  2. ล้างปีกไก่ซับให้แห้ง ใช้ส้อมทิ่มให้ทั่วแล้วใสส่วนผสมทั้งหมดลงในถุงแล้วรวบปากถุงเขย่าให้เครื่องเกาะปีกไก่จนทั่วดี ไล่ลมออก ผูกปากถุงให้แน่นนำไปแช่ในตู้เย็นไว้ 1 คืน หรือหมักไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมงจึงนำออกมาจากตู้เย็นพักไว้ให้คลายความเย็นจึงนำปีกไก่ไปนึ่งให้สุกก่อน
  3. ติดเตาอบตั้งความร้อนไว้ที่อุณหภูมิ 375 องศาฟาเรนไฮด์
  4. นำตะแกรงเหล็กลงบนถาด คีบปีกไก่วางให้เป็นระเบียบ นำเข้าเตาอบ ระหว่างที่อบให้ใช้ช้อนตักน้ำที่ตกจากการนึ่งทาให้ทั่วทุกปีกบ่อยๆ จนน้ำที่เหลือหมดอบปีกไก่จนกระทั่งสุกเหลืองเกรียมทั่ว ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีถึง 1 ชั่วโมงจึงนำถาดปีกไก่ออกจากเตาอบ ใช้แปลงจุ่มน้ำที่ตกจากการอบในถาดทาปีกไก่ให้ทั่วอีกครั้งหนึ่งวย

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ต้มโคล้งปลากรอบ

ส่วนผสม


* ปลากรอบรมควันหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 250 กรัม (หรือเนื้อปลาสดก็ได้)

* น้ำมะขาม 2 ช้อนโต๊ะ

* พริกแห้งหั่น 3 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความชอบ)

* น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

* หอมแดง 3-5 ลูก (นำไปเผาไฟและทุบพอแตก)

* ตะไคร้ 2 ต้น (หั่นยาวประมาณ 2 นิ้วและทุบพอแตก)

* มะเขือเทศหั่น 50 กรัม

* น้ำตาล 1 ช้อนชา

* ข่าหั่นเป็นแว่นๆ 8 ชิ้น

* ใบมะกรูด 5 ใบ

* ใบกะเพรา 1/2 ถ้วยตวง

* น้ำซุป 2 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)

* ใบมะขามอ่อน (สำหรับแต่งหน้า)

วิธีทำทีละขั้นตอน
1. นำน้ำซุปใส่หม้อและไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ใส่ข่า, ตะไคร้ และหอมแดง รอจนน้ำซุปเดือดจึงใส่ปลากรอบลงไป

2. ปรุงรสด้วย น้ำมะขาม, น้ำปลาและน้ำตาล แล้วจึงใส่พริกแห้ง, มะเขือเทศ, ใบกะเพราและ ใบมะกรูด (ฉีกก่อนแล้วค่อยใส่ลงไปในซุป) รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ

3. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยใบมะขามอ่อน เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

เต้าเจี้ยวหลน

ส่วนผสม


* หมูสับ 70 กรัม

* กะทิ 2 ถ้วยตวง

* เต้าเจี้ยว 5 ช้อนโต๊ะ

* ตะไคร้ซอย 2 ต้น

* หอมแดงซอย 3 ลูก

* พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด

* น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ

* ผักสดต่างๆ สำหรับทานกับเต้าเจี้ยวหลน

   (กะหล่ำปลี, ข้าวโพดอ่อน, ถั่วฝักยาว, แตงกวา, อื่นๆ)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำกะทิไปต้มในหม้อด้วยไฟปานกลาง จากนั้นใส่เต้าเจี้ยวลงไป คนให้เข้ากัน

2. รอจนส่วนผสมเดือดอีกครั้งจึงใส่หมูสับ, ตะไคร้, หอมแดงและพริกลงไป ต้มต่อไปอีก 3 นาที

3. ปรุงรสด้วยน้ำตาล คนจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงปิดไฟ

4. ตักเต้าเจี้ยวหลนใส่ถ้วย เสริฟพร้อมผักสด (หรือผักต้มแล้วแต่ชอบ) และข้าวสวยร้อนๆ

วันศุกร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2554

แกงส้มกระเจี๊ยบ

ส่วนผสม


    กระเจี๊ยบหั่นท่อน     100     กรัม
    น้ำพริกแกงส้ม        15     กรัม
    น้ำเปล่า                 2     ถ้วยตวง
    ส้มมะขามเปียก       25     กรัม
    น้ำตาลปีบ             10     กรัม
    น้ำปลา                 10     กรัม




วิธีทำ            
   
1. ตั้งน้ำให้เดือด ละลายน้ำพริกแกงส้มในหม้อ

2. ปรุงรสด้วยน้ำส้มมะขามเปียก น้ำตาลปีบ น้ำปลา

3. ใส่กุ้งสด กระเจี๊ยบ พอเดือดอีกครั้ง ยกลง

4. ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟขณะร้อน ๆ รับประทานกับข้าวสวย

ข้าวคลุกกะปิ (ไมโครเวฟ)

ส่วนผสมหมูหวาน
หมูสามชั้น 300 กรัม
(แล่หนังออก หั่นเป็นชิ้นตามขวางหนา 0.5 เซนติเมตร)
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 80 กรัม

ส่วนผสม

ข้าวสวย 4 ถ้วยตวง
กะปิ 50 กรัม
น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม (สับละเอียด) 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้ง 80 กรัม
ไข่ไก่ (ตีให้แตก) 3 ฟอง
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำมันพืช (สำหรับผัดข้าว) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช (สำหรับทอดไข่) 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช (สำหรับทอดกุ้งแห้ง) 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมเครื่องเคียง

พริกขี้หนู (หั่นบางๆ ตามขวาง) 20 กรัม
มะม่วงดิบ (ซอยเป็นเส้นบางๆ) 150 กรัม
หอมแดง (ซอยเป็นเส้นบางๆ ตามขวาง) 100 กรัม
แตงร้าน (หั่นแฉลบบางๆ) 300 กรัม
มะนาว (หั่นเปนชิ้นเล็กตามยาว) 2 ลูก
ใบผักชี 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ


1. นำส่วนผสมของหมูหวานทั้งหมดใส่ภาชนะ คนให้เข้ากัน ปิดฝาภาชนะ นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 4 นาที ระดับความร้อน HIGH (คนทุก 2 นาที)
2. นำกุ้งแห้งและน้ำมันพืชใส่ลงภาชนะ คนให้เข้ากัน ไม่ปิดฝาภาชนะ นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 2 นาที ระดับความร้อน HIGH
3. นำน้ำมันพืชและไข่ไก่ใส่ลงในภาชนะ ไม่ปิดฝาภาชนะ นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 4 นาที ระดับความร้อน MEDIUM HIGH หมดเวลา นำออกมาหั่นเป็นเส้นฝอย
4. ผสมกะปิ น้ำ และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน คนให้กะปิละลาย พักไว้
5. ใส่น้ำมันพืช กระเทียม ส่วนผสมที่พักไว้ลงในภาชนะ คนให้เข้ากัน ไม่ปิดฝาภาชนะ นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 1 นาที 30 วินาที ระดับความร้อน HIGH (คนทุก 1 นาที)
6. ใส่ข้าวสวยคนให้เข้ากัน ปิดฝาภาชนะ นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 4 นาที ระดับความร้อน HIGH
7. ตักข้าวคลุกกะปิใส่จานเสิร์ฟ โรยด้วยกุ้งแห้งทอด ไข่หั่นฝอย และเครื่องเคียงที่เตรียมไว้ให้สวยงาม ก่อนเสิร์ฟ

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

ถุงทอง

ส่วนผสม

* แผ่นแป้งสำหรับห่อเกี๊ยว 15 แผ่น

* กุ้งขนาดกลาง 100 กรัม

   (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก)

* หมูสับ 100 กรัม

* แห้ว 1 ช้อนโต๊ะ (หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ)

* เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ

* รากผักชีสับละเอียด 1 ช้อนชา

* กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา

* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

* ใบกุ๊ยช่าย

   (นำไปลวกในน้ำร้อนและหั่นเป็นเส้นเพื่อมัดถุงทอง)

* น้ำจิ๊มซ๊อสบ๊วยหวาน

* น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วยตวง 

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ในชามขนาดใหญ่, ผสมเนื้อกุ้ง, หมูสับ, เห็ดหอม, แห้ว, น้ำตาล, รากผักชี, กระเทียม, น้ำปลา และซิอิ๊วขาว เข้าด้วยกัน นวดด้วยมือจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว

2. นำแผ่นแป้งห่อเกี๊ยวไว้ในอุ้งมือ ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งก็ตักส่วนผสม (ในข้อหนึ่ง) ลงบนกลางแผ่นแป้ง จากนั้นจึงห่อส่วนผสมในลักษณะคล้ายถุงแล้วมัดด้วยเส้นกุ๊ยช่าย ห่อจนส่วนผสมและแผ่นแป้งหมด

3. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนจึงใส่ถุงทองที่ห่อแล้วลงไป ทอดจนกระทั่งเหลืองกรอบ และสุกทั่ว นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน

4. จัดถุงทองลงในจาน เสริฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยหวาน และผักสดเครื่องเคียง (แตงกวา, มะเขือเทศ, แครอท, อื่นๆ) เหมาะเป็นอาหารหรือของว่างทานเล่น


ต้มยำชาวเล

ส่วนผสม

ปลาดอกหมากควักไส้ออกตัดหัวและหาง 4 ตัว
ข่าหั่นเป็นแว่น ๆ 5 แว่น
ตะไคร้หั่นเป็นท่อนๆ 1 ต้น
ใบมะกรูดฉีกก้านกลางออก 4 ใบ
มะเขือเทศผ่าสี่ 4 ลูก
น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่งหั่นฝอย 1/4 ถ้วยตวง
ใบสะระแหน่เด็ดเป็นใบๆ 1/4 ถ้วยตวง
น้ำ 5ถ้วยตวง 

วิธีทำอาหาร

     นำข่าตะไคร้ ใบมะกรูด ใส่น้ำตั้งไฟพอเดือด ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลทราย พอเดือดใส่ปลาดอกหมาก พอปลาสุกใส น้ำมะนาว คนพอเข้ากัน ชิมรสเมื่อรสดีแล้วตักใส่ถ้วยใส่ผักชีฝรั่งใบสะระแหน่โรยหน้า 

ผัดเต้าซี่เต้าหู้หมูสับ

ส่วนผสม


* เต้าหู้ 250 กรัม (หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า)

* หมูสับ 300 กรัม

* กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ

* ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

* หอมใหญ่สับละเอียด 1/2 ลูก

* เต้าซี่แบบเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมันงา 1 ช้อนชา

* ต้นหอมซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

* เหล้าจีนสำหรับทำอาหาร 1/2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1 ช้อนชา

* แป้งมัน 1/3 ถ้วยตวง (ผสมน้ำและคนให้ละลาย)

* พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

* น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง

วิธีทำทีละขั้นตอน

     1. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟร้อนปานกลาง จากนั้นใส่กระเทียม, หอมใหญ่และขิงลงไป ผัดจนหอมและเหลือง

     2. ใส่หมูสับลงไปผัดจนเกือบสุก จึงปรุงรสด้วยเต้าซี่, ซิอิ๊วขาว, น้ำตาล, พริกไทยและน้ำเปล่า

     3. ผัดจนหมูสุกทั่ว จึงใส่เต้าหู้ลงไปผัด ระวังอย่าทำให้เต้าหู้เละเพราะจะทำให้ไม่น่าทาน ผัดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี

     4. เทน้ำแป้งที่เตรีียมไว้ลงไปผัดในกระทะ คนต่อเนื่องเพื่อไม่ให้แป้งเกาะตัวเป็นก้อน จากนั้นจึงใส่ต้นหอม, น้ำมันงา และเหล้าจีนลงไป คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี

    5. ตักใส่จานและเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ต้มมะระยัดไส้หมูสับ

ส่วนผสม

* มะระ 2 ลูก

* หมูสับ 300 กรัม

* กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

* รากผักชีหั่นละเอียด 2 ราก

* ซิอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

* ซ๊อสหอยนางรม 2 ช้อนชา

* น้ำตาล 2 ช้อนชา

* เห็ดหอม 3 ต้น (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)

* แครอทหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 1 ลูก

* เกลือ (เพื่อลดความขมของมะระ)

* น้ำซุป 3 ถ้วยตวง (หรือน้ำเปล่า)

* พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

* ผักชี (สำหรับแต่งหน้าอาหาร)

วิธีทำทีละขั้นตอน

     1. ล้างมะระให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นความยาวประมาณ 2 นิ้ว ควักเอาไส้ภายในมะระออกให้หมด จากนั้นทาเกลือภายนอกและภายในให้ทั่ว ทิ้งไว้ 10 - 15 นาที แล้วจึงนำไปล้างด้วยน้ำเปล่าจนสะอาด

     2. ในชามขนาดกลาง, ใส่เนื้อหมู, กระเทียม, รากผักชี, ซิอิ๊วขาว (1 ช้อนโต๊ะ), ซ๊อสหอยนางรม (1 ช้อนชา)และน้ำตาล (1 ช้อนชา) นวดด้วยมือจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำไปยัดใส่ในมะระที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนึ่ง

     3. นำน้ำซุป (หรือน้ำเปล่า) ไปใส่ในหม้อและนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง รอจนเดือดจึงใส่มะระยัดไส้, เห็ดหอม, แครอท, ซิอิ๊วขาว (1 ช้อนโต๊ะ), ซ๊อสหอยนางรม (1 ช้อนชา) และน้ำตาล (1 ช้อนชา) หลังจากใส่เครื่องปรุงทั้งหมด รอจนน้ำซุปเดือดอีกครั้งจึงหรี่ไฟลง ตุ๋นทิ้งไว้ด้วยไฟอ่อนอย่างน้ิอยหนึ่งชั่วโมง (ยิ่งตุ๋นนาน รสชาตของน้ำซุปยิ่งอร่อยขึ้น)

    4. เมื่อตุ๋นได้ที่แล้วตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชีและพริกไทยนิดหน่อย เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

 

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

ปลาจะละเม็ดทรงเครื่อง

ส่วนผสม

ปลาจะละเม็ด 1 ตัว
เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่มหั่นเป็นชิ้น ๆ 3 ดอก
ผักกาดกองใช้แต่ก้านหั่นเป็นชิ้นยาวๆ 1/2 ถ้วยตวง
ขิงสดหั่นฝอย 1/4 ถ้วยตวง
เหล้า 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
มันหมูแข็งหั่นเป็นชิ้นยาวๆ 1/4 ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชีเด็ดเป็นใบๆ 1 ต้น

วิีธีัทำ

1.ขูดเมือกปลาให้หมดควักไส้ออก บั้งเป็นริ้วๆ ทั้ง 2 ข้างล้างให้สะอาดซับด้วยผ้าให้แห้ง
2.นำปลาที่แ้ห้งแล้ววางบนภาชนะ ใส่เหล้า ซีอิ็๊วขาว พริกไทยป่นให้ทั่วปลา จากนั้นนำมันหมูแข็งเห็ดหอม ผักกาดดอง ขิงซอย พริกชี้ฟ้าแดง ผักชี
จัดวางบนตัวปลาให้สวยงามจากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 30 นาที
จนกว่าปลาจะสุก จัดเสริฟ์ในภาชนะให้สวยงาม รับประทานร้อนๆ

ห่อหมกปลาช่อนในกระบอก

ส่วนผสม

ปลาช่อนขอดเกล็ดเอาดีออกล้างสะอาดทั้งตัวหนัก
ประมาณ 500 กรัม
มะพร้าวขูด 500 กรัม
ปลากรายขูดแล้ว 100 กรัม
น้ำพริกแกงคั่ว 150 กรัม
กระชายหั่นหยาบๆ1/4 ถ้วยตวง
น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
ใบโหระพาเด็ดเป็นใบๆ 1/2 ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอยตามยาว 1 เม็ด
ใบมะกรูดหั่นฝอย 3 ใบ
กระบอกไม้ไผ่ความยาวของปล้องขนาดเท่ากับปลาช่อน
ผ่าตามยาว 1 อัน
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ผักชีเด็ดเป็นใบๆ 1 ต้น

วิธีทำ

1.มะพร้าวขูดคั้นกะทิ 1/2 ถ้วยตวง หางกะทิคั้นข้น 2 ถ้วยตวง
2.นำหัวกะทิตั้งไฟพอเดือด พักไว้
3.โขลกน้ำพริกแกงคั่วกับกระชายให้ละเอียด
4.ผสมหางกะทิกับน้ำพริกแกงคั่วและปลากรายขูด คนจนน้ำกะทิข้นจึงใส่ไข่ คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี น้ำตาลทราย คนให้เข้ากัน
ลองตักใส่ใบตอง นำไปปิ้ง พอสุก ชิมรส เมื่อรสดีแล้ว พักไว้
5.นำใบโหระพา รองที่กระบองไม้ไผ่ นำปลาช่อนวางบนใบโหระพา
ตักส่วนผสม น้ำพริกแกงราดบนตัวปลาให้ท่วมตัวปลา
จากนั้นราดด้สยหัสกะทิ โรยด้วยใบมะกรูดหั่นฝอย ผักชี และพริกชี้ฟ้า
แดงหั่นฝอย นำเอากระบอกไม้ไผ่อีกส่วนหนึ่ง นำมาปิด จากนั้นนำไป
อบหรือนึ่งประมาณ 1/2 ชั่วโมงหรือปลาสุก ยกลงจัดใส่จานให้สวยงามรับประทานร้อน

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

ต้มกะทิสายบัว

เครื่องปรุง

สายบัว ปลาทู หัวและหางกะทิ น้ำมะขามเปียก

รากผักชีหั่นฝอย พริกไทยชนิดเม็ด หัวหอมแดง กะปิ

 



วิธีทำ
  1. เอารากผักชีหั่นฝอย พริกไทยชนิดเม็ด หัวหอมแดง กะปิ มาโขลกให้ละเอียด เพื่่่่อจะได้นำมาละลายลงในน้ำหางกะทิ
  2. เอาหม้อใส่น้ำแล้วตั้งไฟต้มจนน้ำเดือด ใส่สายบัวลงไป ต้มสัก ๒-๓ นาทีแล้วจึงตักขึ้นมาพักไว้ ให้สะเด็ดน้ำ ที่ทำแบบนี้เพราะต้องการต้มให้ยางสายบัวออกมา เวลานำไปต้มกับกะทิแล้วน้ำแกงจะไม่ดำ
  3. ต่อไปก็เอาหางกะทิมาละลายกับเครื่องที่ตำเอาไว้ แล้วนำขึ้นตั้งไฟ ขยันคนหน่อยนะจ๊ะ กะทิจะได้ไม่จับตัวเป็นก้อน เมื่อน้ำแกงเดือดแล้วนำเอาสายบัวใส่ลงไป ต้มให้เดือด ใส่เครื่องปรุงรสทั้งหมด ชิมให้ถูกใจ ต้มต่อให้เดือด
  4. เมื่อน้ำแกงเดือดแล้วเอาหัวกะทิใส่ลงไป คนให้เข้ากัน รอให้เดือดอีกครั้งแล้วรีบยกลง กะทิจะได้ไม่แตกมัน เพราะถ้าใส่กะทิข้นเกินไปจะทำให้เราซดน้ำแกงได้ไม่มาก เพราะจะเลี่ยน แต่ถ้าใครชอบน้ำแกงข้นๆก็ใส่หัวกะทิมากๆ
  5. ปรุงรสแล้วแต่ความชอบ

ผัดคะน้าหมูกรอบ

เครื่องปรุง
  1. หมูสามชั้น พอกับคนในครอบครัว
  2. ผักคะน้าก็กะตามสัดส่วน
  3. กระเทียมกลีบใหญ่
  4. พริกสด
  5. น้ำมันหอย
  6. น้ำมันสำหรับผัด

วิธีทำ 
  1. นำหมูสามชั้นมาทอดก่อนดูว่าเหลืองกรอบดีแล้วนำตักมาพัก เตรียมหั่นเป็นชิ้นพอคำ ทุกอย่างคุณกะประมาณเอาว่าสมาชิกในครอบครัวกี่คน ทำลดหรือเพิ่มปลอกเปลือกกระเทียม เด็ดขั้วพริก นำไปล้างน้ำให้สะอาด นำกระเทียมมาสับให้ละเอียด ส่วนพริกสดนำมาหั่นเป็นท่อน พักไว้
  2. นำผักคะน้ามาล้างน้ำให้สะอาด หั่นใบที่แก่ออก ปลอกเปลือกก้าน แล้วหั่นใบเป็นท่อนๆ ส่วนก้านนำมาหั่นเฉียงๆ บางๆ
  3. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อน ให้นำกระเทียมที่สับไว้และพริกหั่นลงไปผัดให้หอม จากนั้นใส่หมูลงไป ผัด
  4. ใส่ผักคะน้าลงไป เติมน้ำมันหอย แล้วผัดต่อไปซักพักจนผักคะน้าเริ่มสลดก็ปิดเตาและยกลงได้
  5. ตักใส่จาน จากนั้นก็ยกเสริฟได้เลย


วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

ปลาใบปอนึ่งเกี้่้ยมฉ่าย

ส่วนผสม

ปลาใบปอควักไส้ออกล้างสะอาด 1 ตัว
เกี้ียมฉ่ายล้างสะอาดหั่น
เ็ป็นท่อนๆ 1 ถ้วยตวง
เห็ดหอมแช่น้ำแล้วหั่น
เป็นชิ้นๆ 1/4 ถ้วยตวง
น้ำซุป 1/2 ถ้วยตวง
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
ต้นหอมหั่นเป็นท่อนๆ 1 ต้น
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 เม็ด
น้ำมันหอน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

     นำเกี้ยมฉ่ายวางที่จาน นำปลาใบปอ วางบนเกี้ยมฉ่ายใส่น้ำซุป เห็ดหอม ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรสพริกไหยป่น น้ำตาลทราย น้ำมันหอย ทาให้ทั่วตัวปลาวางต้นหอม พริกชี้ฟ้าแดง บนตัวปลาใบปอจากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าปลาจะสุก จึงยกลงจัดใส่จานให้สวยงามรับประทานร้อนๆ

หมูผัดเต้าเจี้ยวถั่วฝักยาว

ส่วนผสมหมูผัดเต้าเจี้ยวถั่วฝักยาว

ถั่วฝักยาว 300 กรัม
กระเทียมกลีบใหญ่ 3 - 4 กลีบ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2-3 ช้อนโต๊ะ
เต้าเจี้ยว 2 ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ½ ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับผัด 3 ช้อนโต๊ะ
หมูสไลด์ 300 กรัม

วิธีทำ
 
1.นำถั่วฝักยาวมาล้างให้สะอาดตัดหัวตัดท้าย แล้วหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้ว
2.ปลอกเปลือกกระเทียมล้างน้ำให้สะอาด แล้วสับให้ละเอียดส่วนหมูสไลด์นำมาหั่นให้เป็นชิ้นพอคำขนาดประมาณ 1.5 นิ้ว
3.เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรงตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อนให้นำกระเทียมที่สับไว้ลงไปผัดให้หอมจากนั้นใส่หมูสไลด์ลงไปผัดจนหมูเริ่มสุกจึงเติมเครื่องปรุงต่างๆคือ ซีอิ้วขาว เต้าเจี้ยวและน้ำตาลทรายลงไป
4.ผัดหมูและเครื่องปรุงต่างๆ ให้เข้ากันจากนั้นใส่ถั่วฝักยาวที่หั่นไว้แล้วลงไปแล้วจึงใส่น้ำมันหอยและผัดต่อไปประมาณ 2-3 นาทีหรือจนถั่วฝักยาวสุก ก็ปิดเตาและยกลงได้

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

หมูสับปลาเค็ม(แบบแห้ง)

1.  หมูสันใน (เท่านั้น) 5  ขีด
2.  ปลาอินทรีย์เค็ม ชิ้นค่อนข้างใหญ่หน่อยค่ะ ประมาณ 20 – 30 บาท (ไม่เอาแบบนี้น้ำมันน้า..) (หนาประมาณ 1 นิ้ว)
3.  พริกขี้หนู  20  เม็ด (หากไม่ทานเผ็ดหรือทำให้เด็ก ๆ ทานไม่ต้องใส่ก็ได้)
4.  กระเทียบ  หัวใหญ่ ประมาณ 1 หัวครึ่ง 
5.  น้ำสะอาด  3  ชต.

6.  ไข่ไก่ 1 ฟอง
7.  กะปิดี  ½  ชต.
8.  ซีอิ๋วขาว  3  ชต.
9.  น้ำตาลทราย  3  ชต.
10. น้ำมันพืช(สำหรับผัด)

วิธีทำ

1.  ปลาเค็มนำมาล้างให้สะอาด ลอกหนังออกให้หมด (หนังปลาแข็งสับยาก) รวมถึงก้างและกระดูกด้วย จากนั้นล้างเนื้อหมูให้สะอาด และหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ บาง ๆ เพื่อง่ายแก่การสับ รอได้ก่อน แล้วมาต่อด้วยพริกขึ้หนู กระเทียบสด ล้างแกะเปลือออกเป็นกลีบ ๆ รอไว้ให้พร้อม
2.  การสับจะเริ่มจากหมูก่อน พอเริ่มสักแป๊บนึงก็ใส่ปลาเค็มลงไป สับ ๆ ให้พอแหลก (ถ้าใส่รวมกันหมดจะสับยากมากก ดังนี้ต้องเอาหมูก่อนพอเริ่มกระจายตัวแล้วเอาปลาเค็มลงได้เลย)
3.  พอหมูปลาเค็มเริ่มเข้ากัน และแหลกพอสมควรแล้ว ใส่กระเทียมและพริกขึ้หนูตามลงไป
4.  สับให้ละเอียดแหลก ๆ (ละเอียดมาก หรือน้อยก็ตามใจเราได้เลย) เป็นไปได้อยากให้สับเองมากกว่าใช้เครื่องเละเอียดมากไป ไม่ค่อยได้เนื้อพริก – กระเทียม
5.  นำมาใส่ชามพักไว้ คลุก ๆ ด้วยช้อนให้เข้ากันอีกทีก็ได้
6.  จากนั้นำหมูสับที่ได้มาปรุงรสอีกครั้งโดยเริ่มจากตอกไข่ใส่ลงไป
7.  ตามด้วยซีอิ๋วขาว  น้ำตาลทราย  ตามด้วยน้ำสะอาด
8.  จากนั้นคนส่วนผสมให้เข้ากัน พักส่วนผสมไว้อย่างน้อย 15 นาที
9.  เตรียมกะปิอย่างดี  ตั้งกะทะ เริ่มจากไฟแรงก่อน  ใส่น้ำมันลงไปค่ะ ประมาณ 3 ชต. รอให้น้ำมันร้อนก่อน
10. ใส่กะปิลงไปผัดให้หอมก่อน จากนั้นใส่หมูที่เราหมักไว้ลงตามลงไป  ผัดไฟแรงพอให้หมูสะดุ้ง(เริ่ม ๆ สุกนิด ๆ ) จากนั้นลดไฟลงเหลือไฟกลางผัดต่อไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลาไม่งั้นปลาเค็มจะไหม้ติดกะทะ
11.การผัดต้องคนตลอดเวลา และต้องใช้ตะหลิว ขยี้หมูด้วย (เพราะบางทีหมูจะจับตัวกันเป็นก้อนได้)ไฟกลาง ๆ ค่อนไปทางอ่อน  จากนั้นใส่พริกขึ้หนูเม็ด ๆ ลงไปเพิ่มรสชาติ
12.ผัด และคนต่อไปหมูจะเริ่มแห้งขึ้นมากแล้ว ลดไฟเหลือไฟอ่อน เสร็จแล้วตักใส่จานหมูสับตัวนี้เก็บได้นานประมาณ 1 -2 อาทิตย์เลย (แต่ต้องแช่ตู้เย็นเวลาจะทานก็นำออกมาให้คลายเย็น หรือจะอุ่นอีกทีให้ร้อนก็ได้) 

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

หมูมะนาว

ส่วนประกอบ

* เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม

* กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

* พริกขี้หนูซอย 5 - 10 เม็ด (ปรับได้ตามความชอบ)

* ผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมะนาว 3-5 ช้อนโต๊ะ

* คะน้า 1 ต้น (ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)

* ผักชี (สำหรับแต่งอาหาร)

 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. เตรียมทำน้ำราด โดยผสมกระเทียม, พริก, ซิอิ๊วขาว, น้ำปลา, น้ำตาล และน้ำมะนาว คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ปรับรสชาติได้ตามที่ต้องการ

2. นำผักคะน้าไปลวกในน้ำเดือด จนสุกแล้วจึงสะเด็ดน้ำและจัดใส่จานเสริฟไว้

3. หลังจากลวกคะน้าแล้ว ก็นำหมูไปลวกต่อจนสุกทั่ว เสร็จแล้วนำออกมาสะเด็ดน้ำ

4. จัดหมูที่ลวกแล้วใส่จานเสริฟที่จัดผักคะน้าไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นเทน้ำราดลงบนหมู แต่งหน้าด้วยผักชี จากนั้นจึงเสริฟเป็นของทานเล่นหรือกับแกล้มก็ดี

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

ข้าวผัดสัปปะรด

ส่วนประกอบ

* กุ้งสด 250 กรัม (ล้างและปอกเปลือก)

* หมูแฮม 100 กรัม (หรือใช้เนื้ออกไก่ แทนได้)

* สัปปะรด 1 ลูก

* ข้าวสวย 2 ถ้วยตวง

* กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา

* แครอทหั่น 1/2 ลูก

* หอมใหญ่หั่น 1 ลูก

* เกลือ 1 ช้อนชา

* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

* พริกไทย 1 ช้อนชา

* ซิอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

* เม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่ว, หมูหยองสำหรับแต่งหน้าข้าวผัด

* น้ำมันพืช

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ผ่าสัปปะรดออกเป็นสองครึ่ง (หั่นครึ่ง) ตักเอาเนื้อสัปปะรดออก เอาเนื้อสัปปะรดไปหั่นเป็นชิ้นเล็ก (ต้องการสัปปะรด 1/2 ถ้วยตวงสำหรับทำข้าวผัด สัปปะรดส่วนที่เหลือสามารถใช้เสริฟเป็นของว่างได้) เปลือกที่เหลือหลังจากเอาเนื้อสัปปะรดออกไปล้วนั้น เก็บไว้เพื่อใส่ข้าวผัดเพื่อเสริฟต่อไป

2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ และนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง ใส่กระเทียมลงไปผัดจนหอม จากนั้นใส่กุ้งลงไปผัดจนเกือบสุก (ถ้าไม่ใช้แฮม และเืลือกจะใช้เนื้อไก่แทน หลังจากเจียวกระเทียมจนเหลืองแล้วก็ให้ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดก่อน เมื่อไก่ใกล้สุกจึงค่อยใส่เนื้อกุ้งลงไปผัด)

3. ใส่แครอทและหอมใหญ่ลงไปผัดจนสุก จึงใส่ข้าวสวย, หมูแฮม (กรณีที่ใช้หมูแฮม ไม่ใช้เนื้อไก่), เกลือ, น้ำตาล, พริกไทย, ซิอิ๊วขาวและเนื้อสัปปะรดลงไปผัด

4. ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี จึงปิดไฟ ตักข้าวผัดใส่ลงไปในเปลือกสัปปะรด (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนึ่ง) โรยหน้าด้วยหมูหยองและเม็ดมะม่วงหิมพานต์คั่ว เสริฟทันทีขณะที่ยังร้อน

ไก่ห่อใบเตย

ส่วนประกอบ

* เนื้ออกไก่ 500 กรัม (ลอกหนัง, หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเพื่อให้ง่ายต่อการห่อใบเตย)

* รากผักชี 5 ต้น (ทำความสะอาดและสับให้ละเอียด)

* กระเทียมทุบ 4 กลีบ

* พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

* ซ๊อสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ

* ใบเตย (ล้างและทำความสะอาด เพื่อใช้สำหรับห่อไก่)

* น้ำมันพืชสำหรับทอด

ส่วนผสม + เครื่องปรุง น้ำจิ้มไก่ห่อใบเตย

* น้ำตาล 5 ช้อนโต๊ะ, น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ, ซิอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 1/2 ช้อนชา, งาคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ผสมกระเทียม, พริกไทย, ซ๊อสหอยนางรม, รากผักชี, ซิอิ๊วขาว, น้ำมันงาและเนื้อไก่เข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง

2. ระหว่างรอเนื้อไก่ที่หมัก เตรียมทำน้ำจิ้ม โดยนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในกระทะและนำไปตั้งไฟอ่อนๆ คนจนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด รอจนกระทั่งส่วนผสมเดือดจึงปิดไฟ และตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มรอเสริฟ

3. นำเนื้อไก่ที่หมักแล้วไปห่อกับใบเตยที่เตรียมไว้ (สำหรับท่านที่ไม่เคยห่อ คลิ๊ก วิธีห่อไก่ใบเตย เพื่อดูวิธีห่อง่ายๆ ทีละขั้นตอน)

4. นำไก่ที่ห่อเสร็จแล้วไปนึ่งให้สุกประมาณ 10 นาที หลังจากนึ่งเสร็จแล้วจึงนำไก่ไปทอดจนสุกทั่ว นำออกมาสะเด็ดน้ำมัน

5. จัดไก่ห่อใบเตยในจานให้สวยงาน เสริฟพร้อมน้ำจิ้ม กับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะเป็นของว่างทานเล่นก็ได้

ยำปลาดุกฟู

ส่วนประกอบ


* ปลาดุก 1 ต้ว (น้ำหนักประมาณ 400 - 500 กรัม)

* น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

* พริกขี้หนูซอย 5-10 เม็ด

* หอมแดงซอย 1/4 ถ้วยตวง

* มะม่วงดิบ 1 ลูก (ฝานและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)

* ถั่วมะม่วงหิมพานต์ 1/4 ถ้วยตวง (หรือใช้ถั่วลิสง)

* ผักชีสำหรับแต่งอาหาร

 วิธีทำทีละขั้นตอน
1. นำปลาไปย่างในเตาอบอุณหภูมิประมาณ 230 องศาเซลเซียส จนสุกดี จากนั้นจึงนำออกมาทิ้งไว้ให้เย็น แล้วใช้ส้อมขูดไปที่เนื้อปลาเพื่อให้เนื้อปลาฉีกเป็นชิ้นฝอย

2. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง รอจนน้ำมันร้อนจึงนำเนื้อปลาฝอยที่ขูดได้ไปทอดให้เป็นแพจนเหลือง เสร็จแล้วนำออกมาสะเด็ด และจัดไว้บนจานเสริฟ

3. ทำน้ำยำปลาดุกฟู โดยผสมน้ำปลา, น้ำมะนาว, น้ำตาล, พริก, หอมแดงและมะม่วงดิบ ปรับรสชาติไ้ด้ตามความชอบ (รสดั้งเดิมจะมีรสเปรี้ยวนำ มีรสเผ็ด, รสหวานและเค็มพอๆกัน)

4. ก่อนเสริฟ แต่งหน้าด้วยมะม่วงหิมพานต์และผักชีบนปลาที่ทอดไว้แล้ว สำหรับวิธีเสริฟนั้น จะเสริฟแยกปลากับน้ำยำ หรือราดน้ำยำลงบนปลาเลยก็ได้ ถ้าชอบความกรอบควรเสริฟแยกกัน

เนื้อผัดน้ำมันหอย

ส่วนประกอบ


* เนื้อวัวหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 350 กรัม

* ผักคะน้า 200 กรัม (หั่นความยาวประมาณ 1 นิ้ว)

* กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

* พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 1 เม็ด

* ต้นหอม 5 ต้น (หั่นยาวประมาณ 1 นิ้ว)

* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

* ซ๊อสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ

* ไวน์สำหรับทำอาหาร 1 ช้อนโต๊ะ

   (หรือเหล้าจีนสำหรับทำอาหาร)

* แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

* ผักสดอื่นๆถ้าต้องการใส่เพิ่ม (กรณีไม่ต้องการคะน้า)

* น้ำมันพืช

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ผสมเนื้อวัว, กระเทียม, ซิอิ๊วขาว, น้ำตาลและแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกัน คนจนเข้ากันดี และหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที

2. ใส่น้ำมันในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง นำเนื้อวัวที่หมักแล้วลงไปผัดจนเกือบสุก จึงใส่ผักคะน้า, พริก, ต้นหอม, ไวน์สำหรับทำอาหาร, และซ๊อสหอยนางรม ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี และเนื้อวัวสุก แล้วปิดไฟ

3. ตักใส่จาน เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

กุ้งอบวุ้นเส้น

ส่วนประกอบ

* กุ้งขนาดกลาง 300 กรัม (ล้างและปอกเปลือก)

* รากผักชีทุบ 4 ราก

* เม็ดพริกไทย 20 เม็ด

* กระเทียมทุบ 4 กลีบ

* ขิงหั่น 3 ชิ้น

* น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมันงา 1 ช้อนชา

* ซิอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ

* ซ๊อสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ

* วุ้นเส้น 2 ห่อ (แช่ในน้ำร้อนสักพัก และนำไปหั่นให้มีความยาวประมาณ 3-5 นิ้ว)

* น้ำ 1 ถ้วยตวง

* ซิอิ๊วดำ 1/2 ช้อนชา (กรณีต้องการให้สีวุ้นเส้นดำขึ้น - ไม่ใช้ก็ได้)

* ผักชีสำหรับแต่งอาหาร

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ผสมน้ำมันพืช, น้ำมันงา, เม็ดพริกไทย, ซิอิ๊วขาว, น้ำตาล, น้ำ, ซ๊อสหอยนางรม และวุ้นเส้นลงเข้าด้วยกันในชาม คนจนส่วนผสมเข้ากันดี (ถ้าต้องการให้สีวุ้นเส้นดำขึ้น ก็ให้ใส่ซิอิ๊วดำลงไปผสมด้วย)

2. ทำความสะอาดหม้อดิน และนำรากผักชี, ขิงและกระเทียมวางไว้ที่ก้นหม้อ จากนั้นจึงนำส่วนผสมในขั้นตอนที่หนึ่ง (วุ้นเส้นและเครื่องปรุงต่างๆที่ผสมเข้ากันดีแล้ว) ใส่ลงในหม้อดิน และวางกุ้งสดไว้ชั้นบนสุด (วางบนวุ้นเส้น)

3. นำหม้อดินไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที จนวุ้นเส้นและกุ้งสุกดี จึงนำออกจากเตาอบ

4. แต่งหน้าด้วยผักชี และเสริฟทันทีขณะยังร้อน (อย่าทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้วุ้นเส้นอืดและไม่น่ารับประทาน)

โป๊ะแตกทะเล

ส่วนประกอบ


* หอยแมลงภู่ 100 กรัม (ล้างทำความสะอาด)

* ปู 100 กรัม (ทำความสะอาดและหั่นเป็นชิ้น)

* เนื้อปลาหั่นเป็นชิ้น 80 กรัม

* ปลาหมึก 80 กรัม (หั่นเป็นชิ้น)

* กุ้ง 80 กรัม (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก)

* เห็ดหั่นเป็นชิ้น 1/4 ถ้วยตวง

* ข่าหั่นเป็นชิ้น 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

* พริกทุบพอแหลก 5-10 เม็ด (แล้วแต่ความเผ็ดที่ต้องการ)

* ตะไคร้ 2 ต้น (หั่นเป็นชิ้นยาวประมาณ 2 นิ้วและทุบ)

* ใบมะกรูด 3 ใบ (ฉีกเป็นชิ้นๆ)

* ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง

* น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง (หรือน้ำซุปผัก)

* ผักชี (สำหรับแต่งอาหาร)
วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ตั้งน้ำ (หรือน้ำซุปผัก) ในหม้อ รอจนเดือดจึงใส่ ตะไคร้, ข่า และใบมะกรูด ต้มต่อไปประมาณ 5 นาที

2. ใส่หอยแมลงภู่, เนื้อปู, ปลา, ปลาหมึก, กุ้งและเห็ดลงไปในหม้อ ต้มต่อไปอีกประมาณ 4 นาทีหรือจนกระทั่งเนื้อสัตว์ที่ใส่ลงไปสุก

3. ใส่ใบโหระพา และปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะนาวและ พริก เมื่อได้รสชาติที่ต้องการแล้วจึงตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชีและเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

แกงเลียงกุ้งสด

ส่วนประกอบ


* กุ้งขนาดกลาง 350 กรัม

   (ล้างทำความสะอาดและปอกเปลือก)

* ข้าวโพดอ่อนหั่น 1 ถ้วยตวง

* ผักสดอื่นๆ หั่น 1 ถ้วยตวง

* ใบแมงลัก 1/2 ถ้วยตวง

* น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง (หรือน้ำซุปผัก)

    ส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียง :

     * พริกไทยเม็ด 12 เม็ด

     * หอมแดง 12 ลูก

     * กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

     * กุ้งแห้ง 1/2 ถ้วยตวง

     * น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำทีละขั้นตอน
1. นำส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียงไปโขลกให้เข้ากันโดยใช้ครก หรืออาจใช้เครื่องปั่นอเนกประสงค์แทนก็ได้

2. ต้มน้ำ (หรือน้ำซุปผัก) ในหม้อ ใส่น้ำพริกแกงเลียงลงไป (่ทำในขั้นตอนที่หนึ่ง) คนเรื่อยๆให้เครื่องแกงละลาย

3. เมื่อน้ำซุปเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา รอสักพักจึงใส่กุ้งและผักสดลงไป

4. เมื่อกุ้งและผักสุกดีแล้ว ถ้าต้องการปรุงรสเพิ่มสามารถปรับได้ตามที่ต้องการ เสร็จแล้วปิดไฟ

5. ตักใส่ถ้วย และเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อน

หมายเหตุ : แกงเลียงเป็นอาหารที่นิยมและดีอย่างมากสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูก เพราะจะช่วยให้ร่างกายคุณแม่ผลิตน้ำนมได้มากขึ้น

ขาหมูพะโล้

ส่วนประกอบ


* ขาหมู 1 ขา (ถ้าเป็นไปได้เลือกขาหน้า)

   น้ำหนักประมาณ 600 กรัม

* เห็ดหอม 100 กรัม (หรือผักชนิดอื่นก็ได้)

* ไข่ 4 ฟอง

* รากผักชี 3 ต้น

* ซิอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ

* ผงพะโล้ 1/2 ช้อนชา

* กระเทียมบด 3 กลีบ

* พริกไทยเม็ดบด 1 ช้อนชา

* น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง

* ผักชีสำหรับแต่งอาหาร

   น้ำจิ้มขาหมู :

     * พริกชี้้ฟ้าเหลืองหั่นละเอียด 2 เม็ด

     * รากผัดชีหั่นละเอียด 1 ช้อนชา

     * กระเทียมสับละเีอียด 3 ช้อนโต๊ะ

     * เกลือ 1/4 ช้อนชา

     * น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ

 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำไข่ไปต้มในน้ำร้อนจนสุก ปอกเปลือกเตรียมไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป

2. ต้มน้ำในหม้อ เมื่อเดือดแล้วใส่ขาหมู, กระเทียม, รากผักชี, ผงพะโล้, พริกไทย และซิอิ๋วขาว

3. รอจนกระทั่งน้ำในหม้อเดือด จึงใส่ซิอิ๊วดำ, ไข่ต้มและเห็ดหอมลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนอย่างน้อน 30 นาที

4. ระหว่างเคี่ยวขาหมู เตรียมทำน้ำจิ้มโดย ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในครก (หรือเครื่องปั่นไฟฟ้าอเนกประสงค์) โขลกจนทุกอย่างเข้ากันดี จึงใส่น้ำส้มสายชูและคนให้ทุกอย่างเข้ากัน ตักใส่ถ้วยน้ำจิ้มเตรียมไว้

5. หลังจากเคี่ยวขาหมูจนสุกดีแล้วจึงปิดไฟ นำขาหมูไปหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ และจัดเรียงในจาน ราดน้ำลงไปพอท่วม (ถ้าชอบน้ำขาหมู จัดใส่ถ้วยเสริฟแทน) แต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมน้ำจิ้มและข้าวสวยร้อนๆ

หมูผัดพริกขิง

ส่วนประกอบ

* เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 400 กรัม

   (หรือเนื้อสัตว์อื่นๆ กุ้ง, ไก่, เนื้อวัว)

* ถั่วฝักยาวหั่นยาวหนึ่งนิ้ว 200 กรัม

   (อาจใส่ผักอย่างอื่นลงไปได้ด้วย เช่น แครอท,

   บร๊อกโคลี่, อื่นๆ เป็นต้น)

* ใบมะกรูดซอยละเอียด 2 ใบ

* น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ

* น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ

* ผักชีสำหรับแต่งอาหาร

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง เติมน้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนหอมและแตกมัน

2. ใส่เนื้อหมูลงไปผัดจนเกือบสุก (ประมาณ 3-5 นาที) จึงใส่ถั่วฝักยาว (และผักอื่นๆ ที่คุณเลือกจะใส่เพิ่ม) ลงไปผัดต่อ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล

3. ผัดจนผักสุก จากนั้นใส่ใบมะุกรูดซอยลงไป ผัดต่ออีก 30 วินาทีจึงปิดไฟ

4. ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

ส่วนประกอบ


* ปลาหมึก 350 กรัม (ทำความสะอาดและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)

* ไข่เค็ม 3 ฟอง (ใช้เฉพาะไข่แดง

   โดยนำไปบดและผสมกับน้ำ 1/4 ถ้วยตวง คนจนผสมกันดี)

* ต้นหอม 1 ต้น (หั่นยาวหนึ่งนิ้ว)

* พริกชี้ฟ้าหั่นตามยาว 1 เม็ด

* กระเทียมสับละเอียด 5 กลีบ

* ซ๊อสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ

* ซิอิ๋วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1 ช้อนชา

* น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ

* พริกไทย 1/4 ช้อนชา

* น้ำมันพืช

 วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำเนื้อปลาหมึกที่หั่นไว้แล้วไปลวกในน้ำร้อนจนเกือบสุก นำออกมาสะเด็ดน้ำเตรียมไว้ผัด

2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ และนำไปตั้งไฟร้อนปานแลาง ใส่กระเทียมลงไปจนเหลือง ใส่ต้นหอมและปลาหมึกลงไปผัด

3. เติมซ๊อสหอยนางรม, ซิอิ๊วขาว, น้ำปลา, น้ำตาล, น้ำพริกเผา, พริกไทยป่น และน้ำไข่แดงเค็มที่เตรียมไว้

4. ผัดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงเติมพริกชี้ฟ้าลงไปผัดอีก 10 วินาทีจึงปิดไฟ

5. ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้า เสริฟทันทีกับข้าวสวยร้อนๆ

วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

น้ำพริกอ่อง

ส่วนประกอบ

* หมูสับ 300 กรัม

* มะเขือเทศ 200 กรัม

* หอมแดงหั่นเป็นชิ้นๆ 100 กรัม

* พริกแห้งหั่นเป็นชิ้นๆ 50 กรัม

* ตะไคร้หั่นละเอียด 25 กรัม

* กะปิ 30 กรัม

* เต้าเจี้ยว 1 ช้อนชา

* กระเทียมสับละเอียด 40 กรัม

* เกลือ 1/2 ช้อนชา

* น้ำตาล 1 ช้อนชา

* ผักชีสำหรับแต่งอาหาร

* ผักสด (แตงกวา, แครอท, กะหล่ำปลี, อื่นๆ)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ใส่หอมแดง, กะปิ, กระเทียม (20 กรัม), เต้าเจี้ยว, พริก, ตะไคร้ และน้ำ 1/2 ถ้วยตวง ลงในเครื่องปั่นอเนกประสงค์ (หรือใช้ครก+สาก) ปั่นจนกระทั่งส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี

2. ใส่น้ำมันในกระทะและนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลาง ใส่กระเทียมลงไปผัดจนเหลือง จากนั้นจึงใส่ส่วนผสมที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่หนึ่งลงไปผัดจนหอม

3. ใส่หมูลงไปผัดจนสุกทั่ว จากนั้นจึงใส่มะเขือเทศ, น้ำเปล่า, เกลือและน้ำตาล

4. หมั่นคนจนกระทั่งเดือด จึงลดไฟลงและเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆประมาณ 10 - 20 นาที

5. ตักใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยผักชี และผักสดต่างๆ (ถ้าไม่ชอบผักสด สามารถนำไปลวกจนสุกได้) เสริฟทันทีพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ (หรือข้าวเหนียว)

แกงส้มกุ้ง + ไข่เจียวชะอม

ส่วนประกอบ

* กุ้งขนาดกลาง 8-10 ตัว (ทำความสะอาด, ปอกเปลือก)

* เนื้อปลา 200 กรัม

* น้ำพริกแกงส้ม 4 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ

* น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1 ช้อนชา

* น้ำมะนาว

* ชะอม 1 กำ (ทำไข่เจียวชะอม, จะไม่มีก็ได้)

* ไข่ไก่ 3 ฟอง (ใช้สำหรับทำไข่เจียวชะอม)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำเนื้อปลาไปลวกให้สุกในน้ำร้อน จากนั้นนำเนื้อปลาออกมาบดให้เละ (ถ้ามีก้าง ก็ให้เอาออกด้วย) จากนั้นนำเนื้อปลาไปตำในครกกับน้ำพริกแกงส้มจนเข้ากันดี จึงนำออกมาเตรียมไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป

2. ต้มน้ำในหม้อ รอจนกระทั่งเดือด จึงใส่น้ำพริกแกงส้มที่ผสมกับเนื้อปลา (ขั้นตอนที่ 1) รอจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะขามและน้ำตาล

3. เติมกุ้งและไข่เจียวชะอม (วิธีทำไข่เจียวชะอม ดูด้านล่าง) รอจนแกงส้มเดือดอีกครั้ง จึงปิดไฟ ถ้าชอบเปรี้ยวอาจเติมน้ำมะนาวเพิ่มอีกได้ เมื่อปรุงรสได้ตามที่ต้องการแล้วจึงตักใส่ถ้วย และเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

    วิธีทำไข่เจียวชะอม :

     1. ล้างชะอมให้สะอาดและเด็ดเอาใบอ่อนออกมา หั่นให้มีขนาดยาวประมาณ 1 นิ้ว

     2. นำไข่ไก่ไปตอกและใส่ในชาม คนให้ไข่แดงและไข่ขาวเข้ากัน จากนั้นจึงเติมชะอมที่หั่นไว้แล้ว คนต่ออีกครั้งจนไข่และชะอมผสมกันดี

     3. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟปานกลาง ใส่ไข่และชะอมลงไปทอด รอจนกระทั่งสุกเหลืองดี จึงปิดไฟและนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ และนำไปใช้ในการปรุงกับแกงส้ม หรือทานกับน้ำพริกอื่นๆก็ได้

น้ำพริกกะปิ+ปลาทูทอด

ส่วนประกอบ

* ปลาทู 2 ตัว

* กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

* กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ

* หอมแดงปอกเปลือก 3 ลูก

* กระเทียมปอกเปลือก 3 ลูก

* พริก 10 - 15 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลดตามต้องการ)

* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

* น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำตาล 1/2 ช้อนชา

* ผักสด หรือ ผักนึ่ง (กะหล่ำปลี, แตงกวา, ผักกาดขาว, มะเขือเทศ, ถั่วฝักยาว, อื่นๆ)

* ชะอม 1 กำ (ทำไข่เจียวชะอม, จะไม่มีก็ได้)

* ไข่ไก่ 3 ฟอง (ใช้สำหรับทำไข่เจียวชะอม)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง นำปลาูทูลงไปทอดจนเหลืองและสุก จึงนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน

2. ใส่หอมแดง, พริก, กระเทียมลงในครก (หรือเครื่องปั่นอเนกประสงค์) โขลกจนกระทั่งเข้ากันดี

3. เติมกุ้งแห้ง, กะปิ, น้ำปลา, น้ำมะนาวและน้ำตาล โขลก (หรือปั่น) จนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี

4. ตักใส่ถ้วยน้ำพริก เสริฟพร้อมปลาทูทอดและผักสด (หรือผักนึ่ง) นอกจากนั้นไข่เจียวชะอมก็ยังนิยมรับประทานพร้อมกับน้ำพริกกะปิด้วย
 
วิธีทำไข่เจียวชะอม :

     1. ล้างชะอมให้สะอาดและเด็ดเอาใบอ่อนออกมา หั่นให้มีขนาดยาวประมาณ 1 นิ้ว

     2. นำไข่ไก่ไปตอกและใส่ในชาม คนให้ไข่แดงและไข่ขาวเข้ากัน จากนั้นจึงเติมชะอมที่หั่นไว้แล้ว คนต่ออีกครั้งจนไข่และชะอมผสมกันดี

     3. ตั้งน้ำมันในกระทะบนไฟปานกลาง ใส่ไข่และชะอมลงไปทอด รอจนกระทั่งสุกเหลืองดี จึงปิดไฟและนำออกมาสะเด็ดน้ำมัน หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ จัดใส่จานและเสริฟทานกับน้ำพริก

ปลาหมึกผัดน้ำพริกเผา

ส่วนประกอบ

* ปลาหมึก 350 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)

* ต้นหอม 50 กรัม (หั่นยาวประมาณครึ่งนิ้ว)

* พริกชี้ฟ้าแดงหรือเหลือง 2 เม็ด (หั่นตามยาว)

* หอมใหญ่หั่น 1/2 ลูก

* น้ำพริกเผา 1.5 ช้อนชา

* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนชา

* น้ำตาล 1/2 ช้อนชา

* น้ำมันพืชสำหรับทำอาหาร

* ผักชี (สำหรับแต่งหน้าอาหาร)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ใส่น้ำมันลงในกระทะและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง ใส่ปลาหมึกและหอมใหญ่ลงไปผัดพร้อมกันจนเกือบสุก (ระวังอย่าผัดจนปลาหมึกสุกเกินไป เนื้อปลาหมึกจะมีรสชาติดีที่สุดเมื่อใกล้สุก ถ้าสุกเกินไปเนื้อจะแข็งกระด้าง ไม่อร่อย)

2. เติม น้ำพริกเผา, ซิอิ๊วขาว, ต้นหอม, พริก และน้ำตาล ผัดต่อไปอีกประมาณ 2 นาที จนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี จึงปิดไฟ

3. ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ